ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหนัก หลังเยอรมนีขวางข้อเสนอเพิ่มทุน ESM

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 14, 2011 07:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าประเทศยูโรโซนอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ และข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาคัดค้านการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนยุโรป ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ในการประชุมครั้งล่าสุด

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3184 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5481 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5585 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.980 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 77.890 เยน และพุ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9367 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0012 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0070 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.97% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7633 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงทันทีที่มีข่าวว่า นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ปฏิเสธข้อเสนอให้มีการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า ศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ของ ESM ในปัจจุบันที่ 5 แสนล้านยูโรนั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือสเปนและอิตาลี หากทั้งสองประเทศเผชิญกับวิกฤตการเงิน

ESM เป็นกองทุนให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซน โดยที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติให้ใช้ ESM ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี โดยกำหนดว่าจะเปิดใช้ ESM ในเดือนก.ค. 2555 ส่วนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะยังคงดำเนินงานต่อไปจนถึงกลางปี 2556

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประเทศสมาชิก 27 ประเทศของอียูอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, ฟิทช์ เรทติงส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ครั้งล่าสุด โดยมูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียูในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ แต่กล่าวเพียงว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0 - 0.25% ไว้จนถึงกลางปี 2556

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.55 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นและปรับเพิ่มสต็อกสินค้า

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ