ฟาตีห์ ไบรอล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงกำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจทั่วโลกให้ชะลอตัวลง และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบควรจะพิจารณาเรื่องการเพิ่มผลผลิต
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนต.ค. หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวลงในปีหน้า เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจในภูมิภาคให้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ ไบรอลเรียกร้องให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มปริมาณการผลิต เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และสต็อกน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ไบรอลคาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 150 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในปี 2558 ถ้าหากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือไม่ได้ลงทุนในอัตรา 1 แสนล้านดอลลาร์/ปี เมื่อรักษาสภาพบ่อน้ำมันที่มีอยู่ในปัจจุบันและพัฒนาบ่อน้ำมันแห่งใหม่
นอกจากนี้ ไบรอลคาดว่า กว่า 90% ของการขยายตัวด้านการผลิตน้ำมันดิบจากทั่วโลกในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมาจากภูมิภาคตะวันออกกลาง นำโดยซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อิรัก คูเวต อัลจีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ตลาดจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีการแถลงในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ว่า โอเปคจะเปลี่ยนแปลงโควต้าการผลิตหรือไม่ ขณะที่ไบรอลกล่าวว่า ราคาน้ำมันในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่สูงมากและกำลังส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเขาคาดหวังว่าโอเปคจะนำปัจจัยดังกล่าวไปประกอบการตัดสินใจในการประชุมวันนี้ด้วย