รายงานของสื่ออินโดนีเซียระบุว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียออกนโยบายต่อต้านการฉ้อโกงฉบับใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความคุ้มครองลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ ไม่ให้ถูกยักยอกเงิน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับลูกค้าธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งเมื่อเร็วๆนี้
กฏข้อบังคับฉบับใหม่ระบุว่า ธนาคารกลางไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์จ้างพนักงานจากภายนอกให้เข้ามาดูแลธุรกิจหลักของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารควรจะกำหนดนโยบายบริหารความเสี่ยงสำหรับลูกค้ารายสำคัญแบบแยกต่างหาก และบังคับใช้มาตรการต่อต้านการฉ้อโกง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของลูกค้าธนาคาร หลังจากที่เกิดกรณียักยอกเงินที่ธนาคารซิตี้แบงก์ และแบงค์ เมกา รวมทั้งการติดตามทวงหนี้ที่ยังเป็นข้อสงสัยของหลายฝ่าย
นายอิรวาน ลูบิส หัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลการธนาคารของธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวกับหนังสือพิมพ์จาการ์ต้าโพสต์ว่า กฏระเบียบใหม่ของธนาคารกลางว่าด้วยเรื่องการจัดหางานจากภายนอกนั้น จะทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถว่าจ้างพนักงานภายนอกให้เข้ามาดูแลธุรกิจหลักของธนาคารได้ อาทิเช่น ธุรกรรมการยื่นขอเงินกู้ และการวิเคราะห์สินเชื่อ งานบัญชี การบริการและลูกค้าสัมพันธ์รวมถึงการบริการรับฝาก-ถอนเงิน
นายลูบิสกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ที่ไม่ดำเนินการตามกฎระเบียบจะได้รับโทษในระดับที่แตกต่างกันไป โดยบทลงโทษจะมีตั้งแต่การยึดใบอนุญาตการประกอบธุรกิจบางประเภท ไปจนถึงการปรับ
นอกจากนี้ กฎข้อบังคับยังระบุว่า เพื่อเป็นการป้องกันการฉ้อโกงในอุตสาหกรรมการธนาคาร ธนาคารพาณิชย์จะต้องกำหนดยุทธศาสตร์การป้องปรามการฉ้อโกง โดยธนาคารต้องยื่นแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวต่อธนาคารกลางอย่างน้อย 6 เดือนหลังจากได้รับจดหมายเวียน หรือนับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ปีหน้าเป็นต้นไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน