นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวภายหลังจากที่บริษัท Areva ซึ่งเป็นบริษัทนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส ประกาศลดตำแหน่งงานในเยอรมนีลงว่า แผนการของรัฐบาลเยอรมนีที่จะยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนนั้น จะกระตุ้นการสร้างงานใหม่ได้มากกว่าจำนวนพนักงานที่ถูกปลด
"นโยบายพลังงานใหม่จะสร้างตำแหน่งงานเพิ่มมากกว่าที่สูญเสียไป" นางเมอร์เคลให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
สื่อท้องถิ่นของเยอรมนีรายงานว่า Areva ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานนิวเคลียร์ ระบุว่า บริษัทจะปรับลดจำนวนพนักงานในเยอรมนีลง 1,200 ตำแหน่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนประหยัดต้นทุนของบริษัทอันเนื่องมาจากอุปสงค์ด้านพลังงานนิวเคลียร์ที่หดตัวลง
ด้านบริษัท EON และ RWE ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้ารายใหญ่สุดของเยอรมนี ก็มีแผนปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการยกเลิกการใช้พลังงานงานนิวเคลียร์ของรัฐบาล
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ญี่ปุ่นจนส่งให้เกิดวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางแมร์เคลก็ได้ให้คำมั่นว่าจะปิดโรงไฟฟ้าทั้ง 17 แห่งของประเทศ และจะเพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็น 2 เท่าภายในปี 2565
กระทรวงพลังงานของเยอรมนีเปิดเผยว่า ปัจจุบัน พลังงานนิวเคลียร์คิดเป็นสัดส่วน 22.6% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในเยอรมนี ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอยู่ที่ 42% ก๊าซธรรมชาติ 13.6% และพลังงานหมุนเวียน 17% สำนักข่าวซินหัวรายงาน