นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า โจทย์ใหญ่ของธุรกิจธนาคารในปี 55 คือ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ต้นตอของปัญหามาจากสหรัฐและวิกฤติหนี้ในยุโรป ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและการทำธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าเศรษฐกิจเอเชียยังอยู่ในเกณฑ์ดี
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุดแก่ลูกค้าทุกกลุ่มโดยการเข้าใจการธุรกิจของลูกค้าและช่วยลูกค้าทำธุรกิจต่อไปได้ ธนาคารและยังคงให้ความสนใจกับการเติบโตของรายได้พร้อมๆกับการรักษาคุณภาพสินเชื่อ
“ปี 55 ไม่ได้มีความกังวลด้านใดเป็นพิเศษ เพราะความเสี่ยงมีตลอดเวลาและแบงก์ก็ต้องตั้งรับให้ดี"ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าว
ส่วนการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58 จะทำให้ธุรกิจไทยมีโอกาสเติบโตมากขึ้นภายใต้ระดับการแข่งขันที่สูง เพราะเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี และมีการปรับตัวด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของระบบธนาคารพาณิชย์ นายชาติศิริ กล่าวว่า มีแนวโน้มจะปรับลดลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งลง 0.25% มาอยู่ที่ 3.25% เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม แต่จะเป็นเมื่อใดนั้นขึ้นกับสภาพตลาด โดยเฉพาะสภาพคล่องส่วนเกินในระบบ ขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงอย่างไรก็ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต้องพิจารณาทั้ง 2 ขา คือ เงินฝากและดอกเบี้ยสินเชื่อ
การเติบโตของสินเชื่อที่มีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 1/55 จากความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังจากที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมจะกระทบต่อสภาพคล่องการเงินในระบบลดลงด้วย
“การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ล่าช้าอาจเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยโยบายในช่วง 2 ครั้งที่ผ่านมาธนาคารบางรายไม่ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยตาม และเชื่อว่าแบงก์จะปรับลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของแต่ละแห่ง"นายชาติศิริ กล่าว