นายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเยอร์ หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเยอรมนี ได้วิพากษ์วิจารณ์ผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า มีความคลุมเครือมาก และไม่มีการประกาศใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมวิกฤตหนี้ยูโรโซนในปัจจุบัน
นายสไตน์ไมเยอร์แถลงต่อรัฐสภาเยอรมนีเกี่ยวกับกรณีที่อังกฤษปฏิเสธที่จะสนับสนุนบทบัญญัติทางการคลัง (fiscal compat) ของอียู โดยกล่าวว่า ผลการประชุมอียูทำให้เกิดความแตกแยกในยุโรป เนื่องจากข้อตกลงใหม่ที่ทำร่วมกันในการประชุมครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องทั้งทางกฎหมายและการเมือง
"บทบัญญัติทางการคลังยังคงเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่เกิดความสงสัย ประเทศสมาชิกก็จะอ้างว่า กฎของสนธิสัญญาลิสบอนของอียูมีสิทธิพิเศษ" นายสไตน์ไมเยอร์กล่าว
ในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิก 26 ประเทศของอียูมีมติเห็นชอบให้ใช้บทบัญญัติทางการคลัง แต่เนื่องจากอังกฤษไม่เห็นด้วยกับบทบัญญัติดังกล่าว จึงทำให้ที่ประชุมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาอียูอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำได้แต่เพียงการทำข้อตกลงใช้บทบัญญัติทางการคลัง ที่อิงตามสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) เท่านั้น