สำนักงานศุลกากรของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของเกาหลีใต้ลดลงสู่ระดับ 3.54 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยอดส่งออกไปยังยุโรปลดลง
รายงานของสำนักงานฯ ระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนพฤศจิกายนลดลงจากระดับ 4.07 พันล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปี เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าทั้งสิ้น 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 3.71 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าเป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤติหนี้สินในยุโรปและภาวะเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ขยายตัวในอัตรา 12.7% ต่อปี แตะที่ 4.649 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในสินค้าส่งออกหลายรายการ เช่น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รถยนต์ และผลิตภัณฑ์เหล็ก ที่เพิ่มขึ้น 46%, 33% และ 18.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ
ขณะที่ยอดส่งออกเรือขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่หดตัวลงในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านั้น ส่วนยอดส่งออกอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา จอภาพ และผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ลดลง 27%, 5.9% และ 1% ตามลำดับ
หากแยกเป็นรายประเทศ ยอดส่งออกไปยังญี่ปุ่นขยายตัว 26.7% และกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ยอดส่งออกไปยังจีนและสหรัฐขยายตัว 6% และ 12% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.03 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้เกาหลีใต้ขาดดุลการค้ากับอียู 380 ล้านดอลลาร์
ในขณะเดียวกัน ยอดนำเข้าของประเทศเพิ่มขึ้น 11.1% จากปีก่อน สู่ระดับ 4.296 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากอุปสงค์วัตถุดิบและสินค้าผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
ในส่วนของยอดนำเข้าน้ำมันดิบขยายตัวที่ 14.7% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าถ่านหินทะยาน 42.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน