กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐทั้งสิ้น 4.66 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า จีนถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐในเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 1.13 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 1.2% อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐ รองลงมาคือญี่ปุ่น ซึ่งถือครองพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 9.79 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.3% และอันดับ 3 คืออังกฤษ ซึ่งถือครองพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 4.084 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 3.1%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า นักลงทุนต่างชาติลดการถือครองพันธบัตรลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในเดือนต.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการถือครองพันธบัตรสหรัฐจากนักลงทุนต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง แม้สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐถกเถียงกันเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ จนเป็นเหตุให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐก็ตาม
ในช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐลง 1 ขั้นจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ พร้อมให้แนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองและปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ