พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่รถแท็กซี่ขอปรับขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นเป็น 50 บาท จากปัจจุบัน 35 บาท ว่าให้ยื่นเรื่องเสนอมา หลังจากนั้นก็จะมีการพิจารณาตามเหตุผลที่ยื่นมาว่าจะให้ปรับขึ้นหรือไม่ อย่างไร โดยในเรื่องนี้กรมขนส่งทางบก (ขบ.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งหากจำเป็นต้องมีการปรับขึ้นจริง ประชาชนก็มีทางเลือกอื่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะได้
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ที่ปรึกษารมว.คมนาคม กล่าวว่า รถแท็กซี่ที่มีรายได้น้อย ไม่ได้มีปัญหาจากการปรับขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี แต่เนื่องจากปัจจุบันมีรถแท็กซี่ให้บริการเป็นจำนวนมากถึง 70,000 คัน จากที่ต้องมีประมาณ 35,000 คัน ในขณะที่ผู้โดยสารยังมีเท่าเดิมจึงทำให้มีรายได้ลดลง
ทั้งนี้ แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องควบคุมนิติบุคคล สหกรณ์แท็กซี่ ที่ออกรถมาให้บริการเป็นจำนวนมากจนเกินไป โดยต้องออกกฎหมายควบคุมการออกรถว่าสามารถออกได้จำนวนเท่าไหร่ ขณะเดียวกันเห็นว่าการออกมาเรียกร้องดังกล่าวไม่ใช่แท็กซี่ส่วนบุคคล แต่เป็นผู้ประกอบการ และสหกรณ์แท็กซี่ ที่ต้องการมีรายได้จากค่าเช่ารถเพิ่มขึ้นมากกว่า