ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 30 แห่ง จำนวน 78 คน เรื่อง “คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2555" โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 7 — 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวร้อยละ 3.3 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 4.0 ราคาน้ำมันดิบ(WTI) จะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.7
ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.1 เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 3.25 ไปสู่ระดับร้อยละ 2.75 ภายในสิ้นปี 2555 ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ 30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 13.2 ด้านการเคลื่อนไหวของ SET Index นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 37.2 เชื่อว่าดัชนียังคงมีทิศทางขาขึ้นโดยจุดสูงสุดของปีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,200 จุด
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2555 คือ อันดับ 1 เศรษฐกิจโลกในภาพรวม (ร้อยละ 73.1) อันดับ 2 ปัญหาการเมือง/การชุมนุมประท้วง/เสถียรภาพของรัฐบาล(ร้อยละ 65.4) อันดับ 3 หนี้สาธารณะของประเทศสหรัฐอเมริกา และ กลุ่มยูโรโซน (ร้อยละ 64.1)
สำหรับข้อเสนอต่อรัฐบาล/หน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในกาดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจปี 2555 คือ เร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การป้องกันภัยพิบัติที่เป็นระบบ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
2. เน้นการฟื้นฟูเยียวยา ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม อย่างรวดเร็วและเท่าเทียม เพื่อให้การผลิตของประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อันจะเป็นการช่วยกระตุ้นการจ้างงานภายในประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในครัวเรือน
3. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินให้รัดกุม โปร่งใส รวมถึงการปรับ ครม. ที่ควรเอาคนที่มีความสามารถและน่าเชื่อถือมาเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศ