ธปท.เตรียมลงพื้นที่นิคมฯสำรวจความเสียหาย ประกอบการพิจารณาดอกเบี้ยของกนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 19, 2011 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.เตรียมลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบางหว้า (ไฮเทค) ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และรับฟังความคิดเห็น รวมถึงความต้องการของผู้ประกอบการที่คาดว่าจะเข้าร่วมหารือกว่า 100 ราย เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาดำเนินนโยบายการเงิน ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 25 ม.ค.นี้

นอกจากนี้ ธปท.จะทยอยตรวจสอบความเสียหายและเก็บข้อมูลให้ครบทั้ง 7 นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมต่อไป เพราะเบื้องต้นยอมรับว่าปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างชาติในไทย แต่จะทำให้การลงทุนโดยตรงไม่เร่งตัวขึ้นเท่าที่ควร ขณะที่เชื่อว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมส่วนใหญ่ 90% จะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 2/55 แน่นอน

“ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยปี 55 ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในประเทศ ที่มองเห็นความไม่เป็นปกติอยู่ เพราะปัญหาการเมืองมีทีท่าจะรุนแรงขึ้นก่อนหน้านี้ หรือตั้งแต่หลังการเลือกตั้งด้วยซ้ำ แต่พอเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นก่อน ทำให้ไม่เห็นการเมืองเป็นปัญหา แต่หลังจากน้ำท่วมจบลงแล้ว จากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าการเมืองจะเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งต้องติดตามการแก้ไขปัญหาบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาล ทำให้ปีหน้านับเป็นปีแห่งการบริหารจัดการอย่างแท้จริง"นายเมธี กล่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่าการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ป้องกันน้ำท่วมให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีคงไม่ทันแน่นอน ดังนั้นรัฐบาลควรมีการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และหาแนวทางลดผลกระทบหรือป้องกันในระยะสั้นโดยเร็ว หากปีหน้าปล่อยให้เกิดน้ำท่วมเหมือนปีนี้อีก นักลงทุนต่างชาติคงตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากไทยได้ง่ายขึ้น

สำหรับปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้น จากผลกระทบน้ำท่วมนั้น มองว่าเป็นเพียงปัญหาชั่วคราวเท่านั้น ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาตลาดแรงงานไทยอยู่ในภาวะตึงตัวมาโดยตลอด โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝีมือ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นปัญหายืดเยื้อในระยะต่อไป ประกอบกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทในช่วงนี้ คงเร็วเกินไป เพราะเป็นการปรับแบบก้าวกระโดด และหากอีก 2 ปีข้างหน้า นายจ้างจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำเท่ากันทุกจังหวัด อาจทำให้แรงงานย้ายกลับสู่บ้านเกิดในต่างจังหวัด ยิ่งสร้างปัญหาให้บริษัทเอกชนในเมืองประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานได้

นายเมธี กล่าวอีกว่า สำหรับปีหน้า ธปท.คาดว่าภาคธุรกิจที่น่าจะขยายตัวได้ดี คือ กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากจะเริ่มเห็นการฟื้นฟูโรงงาน บ้านเรือน และกิจการต่างๆหลังสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งภาคบริการต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย ส่วนการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาใหม่นั้น เชื่อว่า ผู้ลงทุนคงดูความชัดเจนของภาครัฐบาลในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่าจะออกมาในทิศทางใด จะสร้างความมั่นใจและประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาจะมีมากน้อยแค่ไหนด้วย

ส่วนความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนหลังจากสถานการณ์ปัญหาน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายนั้น ยอมรับว่า หนี้ภาคครัวเรือนปรับสูงขึ้นมาก แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เพราะหากลงไปตรวจสอบจะพบว่าเริ่มเห็นสัญญาณหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม ซึ่งเป็นผลจากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ และตลาดรถยนต์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้เป็นแรงจูงใจในการซื้อด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ