โวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีอาจจ่ายเงินเต็มจำนวนให้กับกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือยูโรโซนถาวรได้ในปี 2555
"แน่นอนว่า ยิ่งเราจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ESM ได้เร็วและมากขึ้นเท่าไร เราก็จะยิ่งได้รับความเชื่อถือจากตลาดการเงินมากขึ้นเท่านั้น" นายชอยเบิลกล่าวกับหนังสือพิมพ์ ไรนิสเช โพสต์ ดุสเซลดอร์ฟ
กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) จัดตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศในยูโรโซน โดยจะมาทำหน้าที่แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
ผู้นำยุโรปได้ตกลงกันในการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์วันที่ 8 และ 9 ธันวาคมว่าจะเร่งเปิดตัวกองทุน ESM ภายในช่วงกลางปี 2555 เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้ครั้งเลวร้าย
ความสามารถในการปล่อยกู้ของกองทุน ESM อยู่ที่ 5 แสนล้านยูโร (6.519 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งหุ้นทุนจำนวน 7 แสนล้านยูโร (9.106 แสนล้านดอลลาร์) จะรับประกันว่า กองทุนสามารถปล่อยกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในวงเงินดังกล่าว ทั้งนี้ กองทุน ESM ประกอบด้วยทุนชำระแล้ว (paid-in capital) จำนวน 8 หมื่นล้านยูโร (1.041 แสนล้านดอลลาร์) จากประเทศในยูโรโซน และทุนที่เรียกไถ่คืนได้ทันที (callable capital) จำนวน 6.2 แสนล้านยูโร (8.065 แสนล้านดอลลาร์)
ทุนชำระแล้วจะถูกจ่ายเข้าสู่กองทุน ESM โดยแบ่งเป็น 5 งวดเท่าๆกันในระยะเวลา 5 ปี สำหรับเยอรมนีจะสมทบทุนชำระแล้วรวม 2.15 หมื่นล้านยูโร (2.79 หมื่นล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ รมว.คลังเยอรมนียังกล่าวว่า บทบัญญัติทางการคลัง (fiscal compact) ฉบับใหม่สำหรับ 26 ประเทศอียู ควรจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนมีนาคม 2555 และระบุด้วยว่า สนธิสัญญาฉบับใหม่สำหรับสหภาพรักษาเสถียรภาพ (stability union) ควรจะเชื่อมโยงกับสนธิสัญญา ESM