ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนมียอดหนี้เสียเพิ่มขึ้น และมียอดการปล่อยเงินกู้และยอดเงินฝากน้อยลงในเดือนต.ค. เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยในตลาดอสังหาริมทรัพย์และวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
รายงานของธนาคารกลางสเปนระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศมีอัตราส่วนหนี้เสียพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.42% ของยอดการปล่อยกู้ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี จากระดับ 7.16% ในเดือนก.ย. และระดับ 5.68% ของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.319 แสนล้านยูโร (1.719 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ของสเปนปรับตัวลดลง 2.5% จากปีที่แล้ว และยอดเงินฝากของธนาคารลดลง 2.2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการผิดนัดชำระหนี้ และการปรับตัวลงของยอดการปล่อยเงินกู้และยอดเงินฝาก สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ และวิกฤตหนี้ยุโรปที่ลุกลามเป็นวงกว้าง
นายมาเรียโน ราฮอย ว่าที่นายกรัฐมนตรีสเปนกล่าวว่า การปรับโครงสร้างรอบที่สองในภาคธนาคารของสเปนเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งอาจจะรวมถึงการสนับสนุนให้ธนาคารควบรวมกิจการกันมากขึ้น
นอกจากนี้ นายราฮอยยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปภาคธนาคารที่กำลังแบกรับหนี้เสียจำนวนมากที่เกิดจากการปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียทำให้ธนาคารต้องควบคุมการปล่อยเงินกู้ และจะฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐิจภายในประเทศ ซึ่งในขณะนี้อัตราว่างงานของสเปนอยู่ในระดับสูงถึง 23% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในสหภาพยุโรป (อียู)