กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้แสดงความพอใจที่สหภาพยุโรป (อียู) ตัดสินใจอัดฉีดเงินทุนให้กับไอเอ็มเอฟ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับไอเอ็มเอฟในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป
“เรารู้สึกพอใจอย่างมากเมื่อที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนมีมติเพิ่มทุนให้กับไอเอ็มเอฟ ในขณะที่เราพยายามจะเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานเงินทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั่วโลกอย่างเป็นระบบ" โฆษกไอเอ็มเอฟกล่าวในแถลงการณ์
ที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนมีมติจัดหาเงินกู้มูลค่า 1.50 แสนล้านยูโร (หรือประมาณ 1.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับไอเอ็มเอฟ ส่วนอีก 5 หมื่นล้านยูโร (6.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) คาดว่าจะมาจากประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มยูโรโซน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับไอเอ็มเอฟในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ตามมติของที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม อังกฤษยังคงยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมแผนการอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเติมให้กับไอเอ็มเอฟ หลังจากที่อังกฤษเคยปฏิเสธที่จะสนับสนุน "บทบัญญัติทางการคลัง" (fiscal compact) ที่พุ่งเป้าไปที่การควบคุมวินัยด้านการคลังของประเทศอียู เพราะอังกฤษต้องการปกป้องภาคการเงินในประเทศของตนเอง
นายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า ธนาคารกลางเยอรมนีจะมีส่วนในการสมทบทุนให้กับไอเอ็มเอฟ หากเงินทุนดังกล่าวอยู่ในลักษณะการปล่อยสินเชื่อระดับทวิภาคี ไม่ใช่การใช้ไอเอ็มเอฟเป็นช่องทางในการให้ความช่วยเหลือเฉพาะประเทศยูโรโซน
ท่ามกลางวิกฤตหนี้ของยูโรโซนที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ นักลงทุนเข้าใจว่า ไอเอ็มเอฟควรจะเพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อรับมือกับวิกฤตให้ดีกว่านี้ ขณะที่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ รวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุเมื่อไม่นานมานี้ว่า สหรัฐยังไม่มีแผนที่จะสมทบเงินเพื่อเพิ่มทุนให้กับไอเอ็มเอฟ สำนักข่าวซินหัวรายงาน