(เพิ่มเติม) พาณิชย์เผยพ.ย.54 ส่งออกหด 12.4%,นำเข้าหด 2.4% ขาดดุล 1.37 พันล้านดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 20, 2011 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน พ.ย.มีมูลค่า 15,498 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 12.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 16,872 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 2.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน ส่งผลให้ขาดดุลการค้าราว 1.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุที่ทำให้ยอดส่งออกในเดือน พ.ย.ลดลงมาจากอุตสาหกรรมสำคัญได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจนไม่สามารถส่งออกได้ตามปกติ ได้แก่ ยานยนต์ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบยานยนต์ ลดลง 54.7%, สินค้าอิเลคทรอนิกส์ ลดลง 47.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากสุดในรอบ 27 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย.52 ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ยางพารา เพิ่มขึ้น 24.1%, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 20.2%, สินค้ากลุ่มอาหาร เพิ่มขึ้น 17.3%, น้ำตาลทราย เพิ่มขึ้น 172.6%

ขณะที่การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ย.54) มีมูลค่า 211,809 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 209,345 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 25.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เกินดุลการค้าราว 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์คาดว่า ยอดส่งออกทั้งปี 54 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่มีขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน แม้ยอดส่งออกในเดือน ธ.ค.อาจติดลบมากกว่าเดือน พ.ย.เล็กน้อย

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกไปยังตลาดหลักลดลง 16.9% ได้แก่ ตลาดสหภาพยุโรปลดลง 28.8% ตลาดสหรัฐลดลง 13.9% และตลาดญี่ปุ่น ลดลง 8.7% เนื่องจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ตลาดที่มีศักยภาพการส่งออกสูงขยายตัวลดลง 8.4% ได้แก่ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ส่วนตลาดที่มีศักยภาพรองส่งออกลดลง 19.8% ได้แก่ ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย แอฟริกา

รมช.พาณิชย์ คาดว่า การส่งออกในเดือน ธ.ค.54 ยังมีแนวโน้มติดลบเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย.54 เล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก แต่ยอดส่งออกทั้งปี 54 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่มีขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน และในปี 55 ก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 15% เช่นกัน แต่จะต้องรอประเมินสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 55 ก่อนว่ามาตรการกระตุ้นการส่งออกที่ได้ดำเนินการไปแล้วได้ผลมากน้อยเพียงใด ซึ่งอาจยังขยายตัวติดลบอยู่ และอาจต้องเน้นการทำตลาดที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ตลอดจนการทำรีแบรนด์ดิ้งเพื่อยกระดับสินค้าไทยในตลาดโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ