นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.กังวลต่อภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้สาธารณะได้จะทรุดตัวลงอีกในปี 55 จึงหลีกเลียงไม่ได้ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทยผ่านการส่งออกที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
“เศรษฐกิจยุโรปปี 2554 อยู่ในเมฆหมอกสีเทา แต่ปี 2555 ก็กังวลว่ามันจะเป็นสีดำ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้นไทยก็ต้องระมัดรังอย่างมาก แม้เรามีพื้นฐานของเราอยู่ แต่มีส่วนภายในของเราอย่าไปทำไรที่กระทบความสงบ ขณะนี้เรายังคาดการณ์เศรษฐกิจจะเติบโตได้ 4.3%และคอยติดจะเป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่" ผู้ว่าปท. กล่าว
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีข้อได้เปรียบบางด้าน เช่น ฐานการส่งออกที่จะกระจายไปหลายภูมิภาค ที่สำคัญโครงการสร้างของเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ 2 ปีก่อน โดยพึ่งพาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากอุปสงค์และการลงทุนภายในประเทศมากขึ้นในสัดส่วน 50% ของจีดีพี คาดว่า 2-3 เดือนนับจากนี้ การบริโภค ลงทุน การผลิตและการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากปัญหาน้ำท่วมได้คลี่คลายแล้ว
ในขณะที่ได้ลดแรงขับเคลื่อนจากการเศรษฐกิจโลก 50% และคาดกว่ามูลค่าการส่งออกไทยในปี 2555 จะเติบโตเพียง 8% จากที่เติบโต 17% ในปี 2554 ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่เลวร้าย
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวด้วยว่า ความวุ่นวายของเศรษฐกิจโลกมีโอกาสทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผัวผวน ที่ผ่านมา ธปท.พยายามเข้าดูแลด้วยการเข้าไปซื้อดอลลาร์สหรัฐ แต่ในระยะข้างหน้า ธปท.ตั้งโจทย์ไว้ว่าจะลดการเข้าแทรกแซงกลไกตลาดซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษา