รัฐบาลสเปนสามารถจำหน่ายตั๋วเงินคลังในวันนี้เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.64 พันล้านยูโร (ราว 7.36 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งมากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนที่ 1.735% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ 5.11% และให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนที่ 2.435% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 5.227%
นอกจากนี้ รัฐบาลสเปนเปิดเผยว่า ความต้องการตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนมีมากกว่าจำนวนตั๋วเงินคลังที่นำออกจำหน่ายถึง 2.86 เท่า ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 2.85 เท่า สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงต้องการถือครองตราสารหนี้ของสเปน
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 5.112% จากในช่วงเช้าของวันนี้ที่ 5.184% และลดลงเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ 6.78%
อัตราผลตอบแทนซึ่งบ่งชี้ถึงต้นทุนการกู้ยืมของสเปนนั้น ปรับตัวลดลงในช่วงเวลาเดียวกับที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เริ่มจัดหาเงินกู้ระยะเวลา 3 ปีให้กับภาคธนาคารของยุโรปในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคารให้แข็งแกร่งขึ้น
นายมาเรียโน ราฮอย ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน ประกาศแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศลงอีก 1.65 หมื่นล้านยูโร (2.16 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีหน้า พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเพิ่มบำนาญ รื้อกฎหมายแรงงาน และจะเสนองบประมาณประจำปี 2555 ภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ นายราฮอยกล่าวว่า ยอดขาดดุลงบประมาณอาจสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 6% ของจีดีพีในปีนี้ และกล่าวด้วยว่า หนึ่งในร่างกฎหมายฉบับแรกๆ ที่รัฐบาลของเขาจะผลักดันก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยวินัยการคลัง ซึ่งจะกำหนดให้สัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีลดลงเหลือ 60% ภายในปี 2563