สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.9% แตะที่ 1.3118 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 08.50 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรตั๋วเงินคลังของสเปนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมและภาระหนี้สินของรัฐบาลสเปน
รัฐบาลสเปนสามารถจำหน่ายตั๋วเงินคลังในวันนี้เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.64 พันล้านยูโร (ราว 7.36 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนที่ 1.735% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ 5.11% และให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนที่ 2.435% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 5.227%
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 107.2 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของเยอรมนี
นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ เอจี กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งของเยอรมนี ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้และยังช่วยหนุนสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นด้วย หลังจากที่ยูโรอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่าวิกฤตหนี้สาธารณะทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงมากขึ้น