สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นวันแรกในรอบ 7 วันเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก โดยดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลขายตั๋วเงินคลังเมื่อวานนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 20.9 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,617.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,594.10 - 1,620.80 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 66.2 เซนต์ ปิดที่ 29.536 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์ ปิดที่ 3.3695 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,432.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 628.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการแสดงความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองทองคำ ซึ่งจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้มูลค่าของสัญญาทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลขายตั๋วเงินคลังและพันธบัตรเมื่อวานนี้ รวมทั้งรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 107.2 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 79.864 จุด