ศูนย์ข้อมูลธัญพืชและน้ำมันแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า จีนไม่สามารขายถั่วเหลืองสำรองที่นำออกประมูลจำนวน 3 แสนตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้เลย ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ซื้อและบริษัทสกัดน้ำมันถั่วเหลืองให้ความสนใจถั่วเหลืองใหม่มากกว่า
ก่อนหน้านี้ ไชน่า เกรน รีเซิร์ฟส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทสำรองธัญพืชของรัฐบาลจีน ได้ซื้อถั่วเหลืองใหม่ในพื้นที่เพาะปลูกสำคัญในราคาคุ้มครองที่ 4,000 หยวนต่อตันไปแล้วในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า โครงการสำรองจะช่วยยุติปัญหาในตลาดซื้อถั่วเหลืองได้
-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า ราคาผลผลิตทางการเกษตรสำหรับเป็นอาหารปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-18 ธ.ค.)
ราคาขายส่งผัก 18 ชนิดปรับตัวขึ้น 7.9% โดยเฉลี่ย เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น รวมแล้วนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.เป็นต้นมาราคาได้ปรับตัวขึ้น 27.8% เนื่องจากผลผลิตลดลงในฤดูหนาว ส่วนราคาขายส่งเนื้อหมูปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดระดับเงินเฟ้อสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนราคาอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของการประเมินดัชนีราคาผู้บริโภคนั้น พุ่งขึ้น 8.8% จากปีที่แล้ว
-- สมาคมฝ้ายจีนรายงานผ่านเว็บไซต์ว่า ราคาฝ้ายในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดตัวนโยบายลดภาษีฉบับใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปกป้องราคาฝ้ายภายในประเทศ
จีนจะดำเนินมาตรการจำกัดปริมาณนำเข้าฝ้ายในรูปของการกำหนดโควตาภาษี (tariff-rate quota หรือ TRQ) ต่อไป และได้มีการปรับสูตรคำนวนภาษีใหม่ โดยราคานำเข้ายิ่งสูง อัตราการเสียภาษีจะยิ่งต่ำลง
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการสิ่งทอบางรายได้เริ่มเติมสต็อกก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดแล้วแล้ว ทำให้ราคาฝ้ายถีบตัวสูงขึ้น โดยดัชนีราคาฝ้ายจีน CCIndex 328 ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ราคาผ้าฝ้ายเฉลี่ยในจีน แพงขึ้น 10 หยวนต่อตันมาอยู่ที่ 19,067 หยวนต่อตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน