สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสาม หดตัวลง 0.2% จากไตรมาสสองที่ขยายตัว 0.3% ส่งสัญญาณว่าอิตาลีอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2544 ในขณะที่รัฐบาลเตรียมดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดชุดใหม่ที่จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
การหดตัวลงของจีดีพีไตรมาสที่ผ่านมานี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปี 2551 อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบกับปีก่อน จีดีพีไตรมาสสามขยายตัว 0.2%
ทั้งนี้ การใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง 0.2% จากไตรมาสสอง การลงทุนลดลง 0.6% การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.6% ขณะที่การนำเข้าลดลง 1.1%
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ จะเผชิญกับการลงมติไว้วางใจครั้งสุดท้ายภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำไปสู่การอนุมัติใช้แผนรัดเข็มขัดมูลค่า 3.3 หมื่นล้านยูโร ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันอิตาลีจากวิกฤตหนี้ และลดต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งทำสถิติเมื่อไม่นานมานี้ โดยนายมอนติกล่าวว่า มาตรการรัดเข็มขัดซึ่งครอบคลุมทั้งการขึ้นภาษี การลดรายจ่าย และการปฏิรูประบบบำนาญนั้น จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้า แต่ก็จะทำให้อิตาลีสามารถแข่งขันได้มากขึ้นในอนาคต