นายโอลิเวียร์ บลองชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศอุตสาหกรรมที่กำลังเพิ่มขึ้นและสภาพแวดล้อมในด้านนโยบายที่ไม่แน่นอน อาจส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ลงในปีหน้า
นายบลองชาร์ดเขียนในบล๊อกของไอเอ็มเอฟว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2555 จะเริ่มมีความหวังในการฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม จะจบลงด้วยภาวะชะงักงันและการสูญเสียความเชื่อมั่น
"ในขณะที่ช่วงสิ้นปีกำลังใกล้เข้ามา การฟื้นตัวในประเทศอุตสาหกรรมหลายประเทศยังอยู่ในภาวะชะงักงัน และนักลงทุนหลายรายกำลังจับตาดูสัญญาณความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวสู่เหนือระดับศูนย์ และความเป็นไปได้อย่างแท้จริงที่ว่าภาวะต่างๆ อาจจะเลวร้ายกว่าที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551" เขากล่าว
การเผยแพร่บทความของนายบลองชาร์ดมีขึ้นในขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ไอเอ็มเอฟจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 ลง เนื่องจากปัญหาวิกฤติหนี้สินในยุโรป
ส่วนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา รายงาน World Economic Outlook ของไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ 4% ในปี 2555 เนื่องจากวิกฤติหนี้สินในยุโรปมีภาวะที่ย่ำแย่ลง และการตัดสินใจของประเทศอุตสาหกรรมมีความไม่แน่นอน เศรษฐกิจโลกจึงมีภาวะที่สดใสน้อยลง
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟได้เรียกร้องให้ดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการทรุดตัวลงอีกรอบของเศรษฐกิจโลก
"หากไม่มีการดำเนินการก็จะเกิดวิกฤติความเชื่อมั่น และสถานการณ์จะเลวร้ายมากขึ้นในทุกประเทศ และทุกประเทศในโลกนี้ก็จะได้รับผลกระทบที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" นางลาการ์ดกล่าว