สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และไม่มั่นใจว่ามาตรการของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคธนาคารจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประเมินผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3
สกุลเงินยูโรอยู่ที่ 1.3050 ดอลลาร์สหรัฐ แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากวันพุธที่ 1.3044 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ขยับขึ้นเพียง 0.03% แตะระดับ 1.5677 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5673 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.140 เยน จากระดับของวันพุธที่ 78.080 เยน และขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9359 ฟรังค์ จากระดับ 0.9355 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.37% แตะระดับ 1.0126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0089 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.42% แตะระดับ 0.7724 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7692 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่า มาตรการของอีซีบีในการปล่อยเงินกู้ระยะเวลา 3 ปี วงเงิน 4.89 แสนล้านยูโรให้กับภาคธนาคารนั้น จะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ นอกจากนี้ การที่ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนได้ยื่นขอกู้เงินจากอีซีบีในระดับที่สูงเกินคาด ยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของภาคธนาคารมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าหลายประเทศในยูโรโซนอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดแนวโน้มอันดับเครดิตลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" และเตือนว่าอาจลดอันดับเครดิตอีกหกประเทศในยูโรโซน ได้แก่ อิตาลี สเปน เบลเยียม ไอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไซปรัส
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวน โดยในช่วงแรกดอลลาร์ได้แรงหนุนจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลง 4,000 ราย แตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีครึ่งที่ 364,000 ราย แต่ดอลลาร์ลดช่วงบวกลงเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประเมินจีดีพีไตรมาส 3 ลงมาอยู่ที่ 1.8% จากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2%
ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษปรับทบทวนการขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6% จากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 0.5%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า รายได้ส่วนบุคคลจะ เพิ่มขึ้น 0.2% และการบริโภคส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทยวันนี้เช่นกัน ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.313 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.307 ล้านยูนิตของเดือนต.ค.