นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน คาดว่าการใช้น้ำมันในปี 55 จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 4.5-5.5% ตามการคาดการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) โดยการลงทุนของภาครัฐจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคเอกชนหลังอุทกภัยในปีนี้
ทั้งนี้มองว่าปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตมีจำกัดและปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 100-105 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายวีระพล กล่าวว่า วันที่ 1 ม.ค.55 รัฐบาลเตรียมประกาศบังคับใช้น้ำมันตามมาตรฐานยุโรป(Euro 4)ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 40-50 สตางค์/ลิตร แต่ราคาขายปลีกจะปรับเพิ่มขึ้นเท่าใดนั้น จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เพื่อพิจารณาในสัปดาห์นี้
ส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปีนี้ ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 53 เนื่องจากปัญหาอุทกภัย ตั้งแต่เดือนส.ค.ถึงพ.ย.ผ่านมา ทำให้การใช้น้ำมันเบนซินลดลง โดยมีการใช้อยู่ที่ 20 ล้านลิตร/วัน หรือลดลง 2% ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 95 และเบนซิน 91 ก็ตาม ในขณะที่น้ำมันดีเซลมีการใช้เพิ่มขึ้น 3% หรืออยู่ที่ 51.1 ล้านลิตรต่อวัน ,เอ็นจีวีเพิ่มขึ้น 27% หรือ 6.4 ล้านกิโลกรัม/วัน และแอลพีจีเพิ่มขึ้น 19% อยู่ที่ 543 พันตัน/เดือน
ขณะที่การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปีนี้ มีปริมาณ 8.37 แสนบาร์เรลต่อวัน ลดลง 4% จากปีก่อน แต่มูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณ 1.79 แสนบาร์เรล/วัน ลดลง 13% จากปีก่อน
นายวีระพล กล่าวด้วยว่า โครงการฟื้นฟูสถานประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประสบปัญหาอุทกภัย ตั้งแต่ 16 -26 ธ.ค. มีผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อแล้ว 410 ราย ได้รับสินเชื่อแล้ว 25 ราย รวมเป็นวงเงิน 25 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 385 รายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเครดิตบูโร จากที่คาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายเข้าร่วมโครงการ 1,200 ราย ภายใต้วงเงินสินเชื่อทั้งหมดไม่เกิน 600 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% เป็นเวลา 6 ปี
ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลให้สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศต้องปิดให้บริการจำนวน 568 แห่ง กรมธุรกิจพลังงานได้จัดส่งหน่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเคลื่อนที่(โมบายแลป) เข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำมันตั้งแต่ 15 พ.ย.-23 ธ.ค. ใน 20 จังหวัด มีสถานีบริการได้รับการตรวจสอบแล้ว 340 ราย และพบว่ามีสถานีที่ปลอมปนน้ำมันเพียง 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผู้บริโภค