สหรัฐเผยราคาบ้านเดือนต.ค.ร่วงเกินคาด 1.2% บ่งชี้ตลาดที่อยู่อาศัยยังซบเซา

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 27, 2011 21:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลง 1.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.5% ส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะซบเซาอย่างมาก

เดวิด บลิทเซอร์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำดัชนีราคาบ้านของเอสแอนด์พีกล่าวว่า เขตแอตแลนต้า และเขตมิดเวสต์ เป็นพื้นที่ที่มีราคาบ้านอ่อนแอที่สุดในเดือนต.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะปัญหาบ้านถูกยึดจำนองที่มีจำนวนสูงมาก

ข้อมูลราคาบ้านของสหรัฐเป็นหนึ่งในข้อมูลที่นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูมากที่สุดในสัปดาห์นี้ หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐได้ปรับลดการประเมินยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ของสหรัฐลงเหลือ 4.25 ล้านยูนิต จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 4.97 ล้านยูนิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจฟื้นตัว

ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบหลายสิบปีนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เพราะการร่วงลงของราคาบ้าน, การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก และจำนวนบ้านที่ถูกยึดปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น ทำให้กลุ่มผู้ซื้อบ้านชะลอการซื้อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงด้วย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐ ขยายตัวในอัตรา 1.8% ลดลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่าขยายตัว 2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ