สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนซื้อสกุลเงินต่างประเทศมากกว่าขายผ่านธนาคารพาณิชย์ของจีนในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้มียอดขาดดุลสกุลเงินต่างประเทศ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤศจิกายน
SAFE ระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่า ลูกค้าบุคคลและลูกค้าสถาบันจีนแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินหยวนคิดเป็นมูลค่า 1.289 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน และซื้อสกุลเงินต่างประเทศจากธนาคารคิดเป็นมูลค่า 1.297 แสนล้านดอลลาร์
จีนมียอดขาดดุลสกุลเงินต่างประเทศในเดือนพฤศจิกายน จากที่มียอดเกินดุล 3.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม เพราะเงินหยวนอ่อนค่าลง 12 วันติดต่อกันเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดสปอตในเดือนพฤศจิกายน
ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวจากค่ากลาง (Central parity rate) ของเงินหยวนไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6.3165 หยวน/ดอลลาร์ ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน แต่หลังจากนั้นก็ลดลงมา 4.2% แตะที่ 6.3585 หยวน/ดอลลาร์ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน
ในตลาดสปอตของจีนนั้น ธนาคารต่างๆได้รับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินหยวนสูงหรือต่ำกว่าอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวจากค่ากลางไม่เกิน 0.5% ในแต่ละวัน
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลสกุลเงินต่างประเทศข้างต้นไม่นับรวมการซื้อขายของธนาคารเองและการซื้อขายระหว่างธนาคาร สำนักข่าวซินหัวรายงาน