ธนาคารกลางอิตาลีเปิดเผยว่า อิตาลีระดมทุนได้ 9 พันล้านยูโร (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน วันนี้ โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่ 3.251% ต่ำกว่าระดับ 6.504% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ในการประมูลเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ถึงครึ่งหนึ่ง
สำหรับความต้องการซื้อตั๋วเงินคลังสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.7 เท่า เทียบกับระดับ 1.74 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ในวันนี้ อิตาลียังขายพันธบัตรอายุ 2 ปีที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยระหว่างงวด (Zero-coupon bond) มูลค่า 1.7 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.853% ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 7.814% ในการประมูลเดือนก่อน
โดยหลังจากที่มีการเปิดเผยผลการประมูลดังกล่าว ตลาดหุ้นอิตาลีได้พุ่งสูงขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ของรัฐบาลอิตาลีปรับตัวลดลง
ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของอิตาลี ลดลง 0.10% มาอยู่ที่ 4.97% ณ เวลา 10.10 น.ตามเวลาในลอนดอน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 0.22% แตะ 6.78%
การประมูลขายตั๋วเงินคลังของอิตาลีในวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่รัฐสภาอิตาลีลงมติรับรองแผนการรัดเข็มขัดชุดใหม่ของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่า อิตาลีจะสามารถควบคุมหนี้สินของประเทศที่อยู่ในระดับสูงถึง 1.9 ล้านล้านยูโร รวมถึงหลีกเลี่ยงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศได้
ทั้งนี้ อิตาลีเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยูโรโซน และถูกมองว่าใหญ่เกินกว่าที่กองทุนช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบันของยูโรโซนจะสามารถรองรับได้ โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกวิตกกังวลว่า อิตาลีจะประสบกับความยากลำบากในการชำระหนี้
รัฐบาลอิตาลียังมีกำหนดขายตราสารหนี้ระยะยาวในวันพรุ่งนี้ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งได้รับการจับตาจากตลาด