บริษัทค้าปลีกยักษ์ ใหญ่ เซียร์ส โฮลดิงส์ ประกาศเตรียมปิดสาขาห้างเซียร์สและเคมาร์ทมากกว่า 120 แห่ง หลังจากยอดขายลดลงและผลประกอบการด้านค้าปลีกช่วงวันหยุดย่ำแย่
การเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นบริษัทร่วงลง 28% และทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ทบทวนความเป็นไปได้การปรับลดอันดับของบริษัท
บริษัทเซียร์เผยจะปิดห้างที่ให้บริการสินค้าครบวงจร 100-120 แห่ง จากทั้งหมด 2,200 แห่ง โดยคาดว่า รายได้จากยอดขายวันปิดร้านและอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 140 — 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูบริษัทและขยายสาขาในอนาคตได้
แม้ว่า สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) รายงานถึงฤดูกาลจับจ่ายสินค้าช่วงวันหยุดที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยมียอดการขยายตัว 3.8% แต่ยอดขายที่ห้างเคมาร์ทและเซียร์สกลับร่วงลง 4.4% และ 6% ตามลำดับ
บริษัทค้าปลีกชื่อดังพยายามฝ่าฟันวิกฤตเนื่องจากยอดขายที่ลดต่ำลงนับตั้งแต่บริษัทถูกซื้อกิจการในปี 2548 โดยนายเอ็ดเวิร์ด แลมเพิร์ท นักลงทุนเฮดจ์ฟันด์ซึ่งดูแลการควบรวมกิจการกับเคมาร์ท
หลังจากนายแลมเพิร์ทเข้ามาดูแล หุ้นของบริษัทเซียร์สก็ดิ่งลงจากจุดสูงสุดที่ 191.93 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนเม.ย ปี 2550 มาอยู่ที่ 32.90 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้
ผลการดำเนินงานของบริษัทที่แย่ลงทำให้เกิดคำถามตามมาเกี่ยวกับนโยบายการบริหารของนายแลมเพิร์ท นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า บริษัทเซียร์สไม่สามารถสร้างตลาดเฉพาะกลุ่มในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีการแข่งขันสูงได้
“ปัญหาใหญ่ที่สุดของเซียร์สคือว่า การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในตลาดของบริษัทไม่มีความชัดเจน" นางชาร์ลอต เรน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ประจำมหาวิทยาลัยเพอร์ดูกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
นางเรนกล่าวว่า เซียร์สปัจจุบันนี้ “ติดแหง็ก"อยู่ในตลาดค้าปลีก เนื่องจากว่าบริษัทไม่สามารถวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดลูกค้า ฉะนั้นจึงไม่มีความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์หรือราคาที่จะดึงลูกค้าเข้าร้านได้
“เมื่อเทียบกับวอลมาร์ทและทาร์เก็ตแล้ว เซียร์สไม่มีความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันด้านราคา หรือความสามารถที่จะเอาชนะทาร์เก็ตกับเมซี่ส์ในแง่การเลือกผลิตภัณฑ์และการบริการ" นางเรนกล่าว
บริษัทซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในอุตสาหกรรมค้าปลีกของสหรัฐ บริษัทเซียร์ส ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2436 เริ่มสร้างชื่อจากธุรกิจการสั่งซื้อสินค้าผ่านแค็ตตาล็อก และเติบโตกลายเป็น 1 ในบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
เพื่อเป็นการช่วยเหลือบริษัทเซียร์ส รัฐบาลรัฐอิลลินอยส์ออกกฏหมายเมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยมีมาตการผ่อนปรนด้านภาษี 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับบริษัท เพื่อป้องกันการเลิกจ้างพนักงาน 4,250 รายที่ประจำอยู่สำนักงานใหญ่นอกเมืองชิคาโก สำนักข่าวซินหัวรายงาน