คณะกรรมาธิการบริการการเงิน (เอฟเอสซี) ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า สิ่งที่คณะกรรมการให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการกำหนดนโยบายการเงินประจำปี 2555 คือ เสถียรภาพของตลาดการเงิน อันเป็นความพยายามเพื่อเตรียมรับมือความปั่นป่วนในตลาดซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากวิกฤตหนี้ในยุโรปและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยรายงานนโยบายการเงินประจำปี 2555 ของเอฟเอสซี ซึ่งระบุว่า คณะกรรมาธิการฯจะดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ อาทิ วิกฤตการเงินยุโรป สถานการณ์ทางการเมืองในเกาหลีเหนือ รวมทั้งหนี้สินภาคครัวเรือนภายในประเทศ
เอฟเอสซีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวช้าลงในปีหน้า ท่ามกลางปัญหาหนี้สินในยุโรปที่จะยังคงยืดเยื้อต่อไป ส่งผลกระทบให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อ่อนแอลงตามไปด้วย โดยข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัว 4% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจยูโรโซนจะลดลงมาอยู่ที่ 1.1% และในจีนจะลดลงมาอยู่ที่ 9% จากระดับ 1.6% และ 9.5% ที่คาดการณ์ไว้สำหรับปีนี้ตามลำดับ
สำหรับในภาคการเงิน ความผันผวนของตลาดทั้งในและต่างประเทศอาจจะถลำลึกในปีหน้า ขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปที่ลุกลามวงกว้างทำให้ภาคธนาคารของภูมิภาคต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน รวมทั้งส่งผลให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินเกาหลีใต้ เนื่องจากนักลงทุนยุโรปปรับลดการลงทุน
ก่อนหน้านี้ นายคิม ซอก-ดง ประธานเอฟเอสซี เคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในปีหน้า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้อาจจะเลวร้ายกว่าที่หลายคนคาดคิด เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตการเงินยุโรปที่เรื้อรังมานาน
ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการรับมือภาวะผันผวนในตลาด เอฟเอสซี ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้ จึงได้วางมาตรการ อาทิ แผนรับมือความเสี่ยงและการตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงเป็นกิจวัตร ขณะเดียวกันยังได้แนะนำให้ธนาคารในประเทศวางสภาพคล่องในอัตราแลกเปลี่ยนให้เพียงพอ พร้อมกับขอร้องให้บริษัทการเงินในท้องถิ่นทำผลประกอบการเพิ่ม