ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง หนุนยูโรพุ่งเทียบดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 4, 2012 07:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั่วโลกช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสกุลเงินยูโร อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่ายูโรจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.92% แตะที่ 1.3047 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2928 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.92% แตะที่ 1.5644 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5502 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.23% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.680 เยน จากระดับ 76.860 เยน และดิ่งลง 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9323 ฟรังค์ จากระดับ 0.9399 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.45% แตะที่ 1.0371 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0223 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.45% แตะที่ 0.7894 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวสู่ระดับ 53.9 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.7 จุดของเดือนพ.ย. และดัชนีภาคการผลิตของจีนที่ดีดตัวขึ้น 1.3 จุด มาอยู่ที่ระดับ 50.3 จากระดับ 49 ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของยุโรป มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าสกุลเงินยูโรจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป โดยเฉพาะอิตาลีที่กำลังเผชิญกับการไถ่ถอนพันธบัตรวงเงินประมาณ 1 แสนล้านยูโรในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 7%

สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อโฆษกของรัฐบาลกรีซกล่าวว่า กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนหากไม่สามารถทำข้อตกลงความช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโรกับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดจะเปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐไม่น่าดึงดูดใจ

นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซีของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี ที่กรุงเบอร์ลินในวันที่ 9 ม.ค. โดยผู้นำทั้งสองจะเจรจาเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ใหม่ในการคุมเข้มวินัยด้านงบประมาณในกลุ่มอียู จากนั้นในวันที่ 23 ม.ค.จะเป็นการประชุมของ 27 ชาติสมาชิกอียู และในวันที่ 30 ม.ค.จะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอียู โดยวาระการประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การจ้างงาน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกการภาคเกษตรเดือนธ.ค.

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธ.ค.ของสรหัฐจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.7% จากระดับ 8.6% ของเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ