สมาคมยางเวียดนาม (VRA) รายงานว่า เวียดนามทำเงินได้ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการส่งออกยาง 800,000 ตันในปี 2554 ซึ่งคิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้น 2.2% และมีมูลค่าสูงขึ้น 31% จากปีก่อนหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลของ VRA ซึ่งระบุว่า แม้ราคายางปรับตัวลดลงราว 30-40% ในช่วงเดือนท้ายๆของปี แต่เฉลี่ยแล้วราคายังนับว่าปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้านั้น โดยพุ่งขึ้นแตะ 3,900 ดอลลาร์ต่อตัน
จีนยังคงเป็นตลาดใหญ่รองรับการส่งออกยางจากเวียดนาม โดยคิดเป็น 60% ของปริมาณการส่งออกยางรวมทั้งหมดของประเทศ แม้จะลดลงจาก 70% ในปี 2553 ขณะที่เกาหลีใต้และรัสเซียมีความต้องการผลิตภัณฑ์ยางจากเวียดนามลดลงเช่นกัน โดยลดลง 2.5% และ 27.7% ตามลำดับ บุคคลในแวดวงอุตสาหกรรมยางเวียดนามระบุว่า ความต้องการที่ปรับลดลงเป็นผลมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก
ความต้องการยางธรรมชาติอาจจะปรับลดลงอีกในระยะสั้น แต่คาดว่าในระยะยาวจะขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ
ในปัจจุบันนี้ เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกยาง 740,000 เฮคตาร์ โดยมากแล้วตั้งอยู่ในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกยางมากเป็นอันดับ 5 ของโลกรองจากไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย
สำหรับในอนาคต สมาคมฯตั้งเป้าหมายว่าจะเพาะปลูกยางให้ได้ 8 แสนเฮคตาร์ภายในปี 2558 และจะผลิตยางธรรมชาติให้ได้กว่า 1.2 ล้านตันไม่เกินปี 2563