ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุน เข้าสภาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 4, 2012 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา หลังจากนั้นส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้กำหนดคำจำกัดความของการควบรวมกิจการ หมายถึง การที่บริษัทหนึ่งซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงของอีกบริษัทหนึ่งในจำนวนที่ทำให้สามารถเช้าควบคุมการบริหารจัดการในอีกบริษัทได้, การที่บริษัทหนึ่งซื้อหรือได้มาซึ่งกิจการหรือทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนที่เป็นสาระสำคัญของอีกบริษัทหนึ่ง, การที่บริษัทตั้งแต่สองบริษัทขึ้นไปควบรวมเข้ากันจนเป็นผลทำให้บริษัทที่ควบรวมเข้ากันนั้นหมดสภาพการเป็นนิติบุคคลและได้จัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ และ/หรือ การดำเนินการลักษณะอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง(ร่างมาตรา 3)

โดยบริษัทที่สามารถดำเนินการควบรวมกันได้ตามร่าง พ.ร.บ.นี้ ได้แก่ บริษัทจดทะเบียนที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกัน, บริษัทที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกับบริษัทจดทะเบียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำหุ้นนั้นไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์, บริษัทที่ประสงค์จะควบรวมกิจการเพื่อนำหุ้นของบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการนั้นไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์, บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกันหรือประสงค์จะควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น, บริษัทที่มีการขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนหรือบริษัทที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกันเพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัยที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกันหรือบริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิตที่ประสงค์จะควบรวมกิจการกัน(ร่างมาตรา 5)

พร้อมทั้งกำหนดให้บริษัทสามารถบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องโดยการแจ้งผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และในหนังสือพิมพ์รายวัน หรือการบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้แต่ละรายก็ได้(ร่างมาตรา 7)

กรณีที่การควบรวมกิจการ มีผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนคู่สัญญาเพื่อให้หนี้สิทธิ หน้าที่และความรับผิดโอนไปยังบริษัทที่เกิดจากการควบรวม ให้บริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการแจ้งการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัททราบเป็นหนังสือภายใน 14 วัน นับแต่วันที่จดทะเบียนการควบรวมกิจการ และหากเจ้าหนี้ไม่คัดค้านภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ให้ถือว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้แล้ว(ร่างมาตรา 9)

ส่วนกรณีผู้ถือหุ้นคัดค้านการควบรวมบริษัท บริษัทต้องจัดให้มีผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นดังกล่าวในราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ย 15 วันสุดท้ายก่อนวันที่มีมติให้ควบบริษัทหรือในกรณีที่ไม่มีรายซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ให้ใช้ราคาตามที่ผู้ประเมินราคาอิสระซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มีรายชื่อในบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้ความเห็นชอบซึ่งทั้งสองฝ่ายแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้กำหนด ถ้าผู้ถือหุ้นนั้นไม่ยอมขายภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำเสนอขอซื้อ ให้บริษัทดำเนินการควบรวมกิจการต่อไปได้ และให้ถือว่าผู้ถือหุ้นดังกล่าวนั้น เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ควบรวมกิจการ(ร่างมาตรา 10)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ