ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง เหตุตลาดเมินผลประมูลบอนด์เยอรมนี

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 5, 2012 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแทบจะไม่ให้การตอบรับผลการประมูลพันธบัตรครั้งล่าสุดของรัฐบาลเยอรมนี นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าสเปนอาจจะยื่นขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.82% แตะที่ 1.2943 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3050 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.17% แตะที่ 1.5619 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5645 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.730 เยน จากระดับ 76.620 เยน และพุ่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9415 ฟรังค์ จากระดับ 0.9321 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.05% แตะที่ 1.0364 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0369 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.25% แตะที่ 0.7875 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7895 ดอลลาร์สหรัฐ

แม้เยอรมนีสามารถขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ได้ 4.06 พันล้านยูโร (5.28 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลเมื่อวานนี้ แต่นักลงทุนกลับไม่ให้ความสนใจกับข่าวดังกล่าวเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงด้วย ขณะเดียวกับมีการคาดการณ์ว่า การประมูลพันธบัตรครั้งต่อไปของรัฐบาลเยอรมนีอาจจะไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดได้ดีเท่าที่ควร

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนกำลังพิจารณาเรื่องการยื่นขอเงินกู้จาก IMF และ และกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) รวมทั้งรายงานที่ว่า ดัชนีภาคการผลิตของยูโรโซนเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 48.3 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงหดตัวลง

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานภายในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 4.592 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.7% จากระดับ 8.6% ของเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ