นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวยอมรับว่า กรีซอาจจะถูกบีบให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค. หากการเจรจาเรื่องเงินกู้งวดต่อไปกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) ล้มเหลว
"ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตมาก หากไม่มีการทำข้อตกลงกับผู้ตรวจสอบบัญชีของ EU/IMF ในเรื่องของเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในขั้นตอนต่อไปแล้ว กรีซก็มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค." นายปาปาเดมอสกล่าว
เป็นที่คาดการณ์กันว่า คณะผู้ตรวจสอบของ EU/IMF จะเดินทางมายังกรุงเอเธนส์ในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ เพื่อทบทวนสถานะทางการเงินของกรีซ ขณะที่กรีซได้รับแรงกดดันมากขึ้นให้เร่งดำเนินการปฏิรูปเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีกรีซได้ผลักดันให้มีการลดต้นทุนด้านแรงงานในภาคเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันภายในประเทศ โดยหลังจากที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้มีการลดค่าแรงในภาครัฐและการขึ้นภาษีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันรัฐบาลก็เริ่มหันมามุ่งเน้นในภาคเอกชน ด้วยการแนะนำให้ภาคเอกชนลดค่าแรงขั้นต่ำและทบทวนการจ่ายเงินโบนัสวันหยุด
ทั้งนี้ กรีซต้องพึ่งพาเงินกู้จาก EU/IMF มานับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2553 เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประเทศอื่นๆในยูโรโซน