ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหนัก เหตุตลาดผิดหวังผลประมูลบอนด์ฝรั่งเศส

ข่าวต่างประเทศ Friday January 6, 2012 07:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปและความผิดหวังที่นักลงทุนมีต่อผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลด้านแรงงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.16% แตะที่ 1.2790 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2940 ดอลลาร์สหรัฐ และดิ่งลง 0.59% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.660 เยน จากระดับ 99.250 เยน ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.77% แตะที่ 1.5495 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5615 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.63% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 77.150 เยน จากระดับ 76.670 เยน และทะยานขึ้น 1.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9525 ฟรังค์ จากระดับ 0.9412 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.94% แตะที่ 1.0267 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0364 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.74% แตะที่ 0.7810 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7868 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินเยน หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสระดมทุนจากการขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้เพียง 4.02 พันล้านยูโรในการประมูลเมื่อวานนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3.29% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งก่อนที่ 3.18% ขณะที่อัตราส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณที่นำออกจำหน่าย (bid-to-cover ratio) ลดลงแตะ 1.64 เท่า จากระดับ 3.05 เท่า

การปรับตัวลงของอุปสงค์พันธบัตรฝรั่งเศสสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป นอกจากนี้ การประมูลพันธบัตรยังมีขึ้นหลังจากที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื้อถือหลายแห่งได้ออกรายงานเตือนว่าจะปรับลดอันดับเครดิต AAA ของฝรั่งเศส เนื่องจากตัวเลขหนี้สินอยู่ในระดับที่สูงมาก

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยเมื่อวานนี้ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 372,000 ราย นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค.ของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 จุด จากระดับ 52.0 จุดในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกการภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ (6 ม.ค.) เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.7% จากระดับ 8.6% ของเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ