สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 1.5% เมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) โดยทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากผู้บริโภคของอัลโค อิงค์ คาดการณ์ว่าความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลกจะขยายตัวขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 23.4 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,631.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1637.5 - 1631.5 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.9 เซนต์ ปิดที่ 29.815 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.7 เซนต์ ปิดที่ 3.513 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 17.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 635.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 35 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,464.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.ขยายตัวเพียง 0.1% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% และสะท้อนให้เห็นว่า ภาคค้าส่งซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ยังไม่ค่อยมั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากเท่าใดนัก
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และหลังจากนายเคลาส์ ไคลน์เฟลด์ ซีอีโอของอัลโค คาดว่าความต้องการอลูมิเนียมในตลาดโลกจะขยายตัว 7% ในปี 2555 ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในวงกว้าง เนื่องจากมีอุตสาหกรรมหลายประเภทที่ใช้อลูมิเนียมเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์