นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ปตท.จะยังไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศในช่วงนี้ โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบยังแกว่งตัวอยู่ที่ 100-110 ดอลลาร์/บาเรล ซึ่งประเด็นที่ต้องจับตาว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวน คือ ความรุนแรงของสถานการณ์ในอิหร่านที่น่าเป็นห่วง เพราะอิหร่านเองถึอว่ามีศักยภาพในการปิดอ่าวได้ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้น แต่หากเกิดวิกฤติขึ้นในยุโรปก็จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง
ส่วนราคาก๊าซ NGV นั้น คงต้องปรับราคาไปตามต้นทุนจริงที่เกิดขึ้น โดยปัจจุบันมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ออกใหม่ถึง 300 คัน/วัน จึงทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซ NGV เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับราคาก๊าซ NGV ที่ปตท.ขายอยู่ปัจจุบันที่ 8.50 บาท/กก. ขณะที่เบนซินแตะระดับ 40 บาท/ลิตร ซึ่งห่างกันเกือบ 5 เท่า
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ตลอดช่วง 9 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ปตท.แบกรับภาระสะสม 40,000 ล้านบาท และไม่อยากให้คิดว่า ปตท.เป็นผู้ผูกขาดตลาด เพราะในการตั้งราคาก๊าซจะมีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์)เป็นผู้ดูแล
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/54 ของปตท.อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะมีผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่ ปตท.มีการบริหารจัดการที่ดี แม้จะมีบางปั๊มที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ปตท.ได้เปิดปั๊ม NGV ไปแล้ว 530 แห่ง และจะยังเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับปริมาณผู้ใช้ก๊าซ NGV ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต