รายงานเบื้องต้นจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นลดลง 85.5% ในเดือนพ.ย.ปี 2554 เมื่อเทียบกับปี 2553 แตะระดับ 1.385 แสนล้านเยน เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งรับผลกระทบจากวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซน
ขณะที่ยอดเกินดุลการชำระบัญชีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นมาตรฐานวัดการค้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่นนั้น ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 อันเป็นผลมาจากมูลค่าการส่งออกที่ปรับตัวลดลง 3.1% อยู่ที่ 4.9909 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
เมื่อเทียบเป็นรายผลิตภัณฑ์ ยอดส่งออกเซมิคอนดัคเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการชะลอตัวลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศในเอเชียที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากสหภาพยุโรปเป็นส่วนใหญ่
ส่วนยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 14% เป็นมูลค่า 5.576 ล้านล้านเยน อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดนำเข้าสินค้าประเภทก๊าซธรรมชาติเหลวและน้ำมันดิบ ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคของญี่ปุ่นจำเป็นต้องกระตุ้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนที่มาจากน้ำมัน ในช่วงที่มีการระงับการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลด้านความปลอดภัย หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมี.ค. 2554 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน