รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงมั่นใจว่า สถานะด้านการเงินในอนาคตของอิตาลียังคงอยู่ในระดับที่ดี โดยการขายพันธบัตรครั้งนี้ ให้อัตราผลอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ในเดือนที่แล้ว และยังต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนพ.ย.ที่ระดับ 6.087%
นอกจากนี้ รัฐบาลอิตาลียังขายพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปลายเดือนพ.ค.นี้ มูลค่า 3.5 พันล้านยูโร ให้อัตราผลตอบแทน 1.644% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 3.251%
หนี้สินมูลค่า 1.9 ล้านล้านยูโร (2.42 ล้านล้านดอลลาร์) และความจำเป็นในการกู้ยืมเงินมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลอิตาลีในปีนี้ ได้กลายมาเป็นจุดสนใจในเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปของตลาดการเงินอีกครั้ง ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเคยระบุว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีภายในเดือนนี้นั้น ประมาณการว่า อิตาลีจำเป็นจะต้องรดมทุนอย่างน้อย 3.60 แสนล้านยูโร (4.58 แสนล้านดอลลาร์) ในปีนี้
นอกจากนี้มีรายงานว่า สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งพันธบัตรเหล่านี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2558 และ 2559 โดยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดใหม่ของสเปนจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ภายในประเทศได้
การประมูลขายพันธบัตรของสเปนมีขึ้นหลังจากรัฐสภาสเปนได้อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับแรกของรัฐบาล มูลค่า 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.91 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการพุ่งขึ้นของยอดเกินดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ สเปนกำลังทำทุกวิถีทางที่จะหลีกเลี่ยงจากการถูกกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะ หลังจากปัญหาดังกล่าวได้บีบให้กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงิน โดยขณะนี้อัตราว่างงานของสเปนยืนอยู่ที่ระดับ 21.5% ขณะที่เศรษฐกิจสเปนก็มีแนวโน้มที่จะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย