ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเกือบทุกสกุล หลังจากที่สเปนขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ถึงสองเท่า ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อยูโร
สกุลเงินยูโรแข็งค่ามากที่สุดในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากที่สเปนขายพันธบัตรสามชุดได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งรวมถึงพันธบัตรอายุ 3 ปี มากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 5 พันล้านยูโร ถึงสองเท่า นอกจากนี้ ยังให้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำลงมากอีกด้วย ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือกันถึงนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะตรึงอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1%
ยูโรปรับตัวขึ้น 0.4% แตะ 98.08 เยน ณ เวลา 11.02 น.ตามเวลาในลอนดอน โดยก่อนหน้านั้น ยูโรแข็งค่าขึ้นถึง 0.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในระหว่างวันนับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ยูโรร่วงลงแตะ 97.28 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2543
ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะ 1.2757 ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ร่วงลงแตะ 1.2662 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553
ทั้งนี้ สเปนขายพันธบัตรอายุ 3 ปีได้ 4.27 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3.384% ซึ่งลดลงจากระดับ 5.187% ในการประมูลเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม
ด้านต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีปรับตัวลดลงเช่นกันในการประมูลตราสารหนี้ครั้งแรกของปีในวันนี้ โดยรัฐบาลอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี ได้ 8.5 พันล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ย 2.735% เทียบกับ 5.952% ในการประมูลเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นอกจากนี้ อิตาลียังขายตั๋วเงินคลังอายุ 136 วัน ในวันนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสเปนและอิตาลี ร่วงลงอย่างมาก หลังจากการประมูลพันธบัตรที่ประสบความสำเร็จดังกล่าว
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลี ลดลง 0.40% ลงมาอยู่ที่ 6.62% และของสเปนลดลง 0.11% มาอยู่ที่ 5.25%