นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่า กรีซจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการรัดเข็มขัด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
นางแมร์เคลกล่าวทางสถานีวิทยุ Deutschlandfunk ของเยอรมนีว่า กรีซจะต้องผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศณษฐกิจเพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจและรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งแม้การปฏิรูปดังกล่าวจะเห็นผลค่อนข้างช้า แต่ก็เชื่อว่าจะทำให้ตัวเลขหนี้สินของกรีซปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 120% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่ระดับ 150% ของจีดีพี
ถ้อยแถลงของนางแมร์เคลมีขึ้นไม่นานหลังจากที่นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ ออกมายอมรับว่า กรีซอาจจะถูกบีบให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค. หากการเจรจาเรื่องเงินกู้งวดต่อไปกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) ล้มเหลว
"ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตมาก หากไม่มีการทำข้อตกลงกับผู้ตรวจสอบบัญชีของ EU/IMF ในเรื่องของเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในขั้นตอนต่อไปแล้ว กรีซก็มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค." นายปาปาเดมอสกล่าว
ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจสอบของ EU/IMF จะเดินทางมายังกรุงเอเธนส์ในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ เพื่อทบทวนสถานะทางการเงินของกรีซ ขณะที่กรีซได้รับแรงกดดันมากขึ้นให้เร่งดำเนินการปฏิรูปเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป