ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศซื้อพันธบัตรของรัฐบาลยูโรโซน มูลค่า 3.8 พันล้านยูโร (4.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งบ่งชี้ว่าอีซีบีกำลังใช้เครื่องมือที่จะช่วยพยุงรัฐบาลของประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้ ให้หลุดพ้นจากภาวะล่มสลายทางการเงิน
มูลค่าของการซื้อพันธบัตรในวันนี้สูงกว่าระดับ 1.1 พันล้านยูโรในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยควบคุมต้นทุนการกู้ยืมของประเทศยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาหนี้ เช่นสเปนและอิตาลี หลังจากที้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศยูโรโซน
การประกาศซื้อพันธบัตรครั้งล่าสุดของอีซีบีมีขึ้นไม่นานหลังจากนายคริสเตียน นอยเออร์ สมาชิกสภาบริหารของอีซีบีเปิดเผยว่า อีซีบีวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะเวลา 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์เป็นรอบที่ 2 มูลค่าสูงถึง 6 แสนล้านยูโร (ประมาณ 7.6676 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมฐานเงินทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป และบรรเทาความวิตกกังลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะของยูโรโซน เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา อีซีบีได้อัดฉีดเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำระยะเวลา 3 ปี มูลค่ารวม 4.90 แสนล้านยูโร (ประมาณ 6.2612 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับธนาคารพาณิชย์กว่า 500 แห่งในยุโรป ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ 3.10 แสนล้านยูโรเท่านั้น โดยอีซีบีมีเป้าหมาที่จะเสริมสร้างสถานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ และลดภาวะสินเชื่อหดตัว นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์เข้าซื้อพันธบัตรสเปนและอิตาลี ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาวิกฤติหนี้สินยูโรโซนในอีกทางหนึ่ง