รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีมา) และองค์กรภาคประชาชน มีการตั้งข้อสังเกตถึงราคายาที่มีสิทธิบัตรของบริษัทยา หลังจากพรีมาขอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความสำคัญในการคุ้มครองยา เพราะการพัฒนายาใหม่ขึ้นมาแต่ละชนิดต้องใช้เวลานานถึง 10-15 ปี โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ยมากถึง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 40,000 ล้านบาท
แต่องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนแย้งว่า การตั้งราคายาที่มีสิทธิบัตรคุ้มครองนาน 15-20 ปี ได้กำหนดราคาที่สูงเกินความเป็นจริงมาก เห็นได้จากเมื่อยาหมดอายุสิทธิบัตร ราคาจะลดลงเหลือเม็ดละ 10-20 บาทเท่านั้น จากราคายาที่เคยจำหน่ายถึงเม็ดละ 100 บาท หรือมีการตั้งกำไรสูงถึง 20 เท่า จึงขอให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ ที่ดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดูแลโครงสร้างราคายาใหม่
ด้านนายศิริวัฒน์ กล่าวถึงแนวทางการดูแลราคายาในปัจจุบันว่าตั้งราคาสูงเกินไปหรือไม่ว่า จะเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กรมการค้าภายใน เข้าหารือเพื่อหาทางออก เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ทำได้เพียงการประสานงาน เพราะสินค้ายาเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน แต่คงไม่ใช่การกำหนดราคาควบคุม แต่อาจใช้วิธีการเจรจาขอให้บริษัทยาปรับลดราคาลงมา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาได้