กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เสนอให้รัฐบาลนำเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้ามาไว้ในระบบจัดเก็บภาษีกรณีที่จะมีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ และเชื่อว่าการปรับโครงสร้างราคาพลังงานจะมีส่วนช่วยดันยอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
นายสุรพงษ์ โพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.เสนอให้นำชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้า มาเข้าสู่ระบบจัดเก็บภาษีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจตามกฏหมาย หลบเลี่ยงการจ่ายภาษี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาล และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งผู้บริโภค
ส่วนการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เห็นว่า จะทำให้ประชาชนเลือกใช้รถยนต์ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์อีโคคาร์ ทำให้สัดส่วนยอดขายรถยนต์นั่ง และอีโคคาร์ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 28% เป็น 47% ซึ่งใกล้เคียงกับยอดขายรถกระบะ
โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการเลิกจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นั้นอาจมีการเลิกจ้างจริง แต่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีการเลิกจ้างไม่ถึง1,000 คน จากจำนวนแรงงานทั้งระบบที่มีอยู่ประมาณ 1.5 แสนคน แต่สำหรับอุตสาหกรรมประกอบยานยนต์ยังไม่มีการเลิกจ้างแรงงาน เพราะในปีนี้กำลังการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคัน เพื่อชดเชยการผลิตที่หายไปในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ประกอบกับในปีนี้ยังมีค่ายรถยนต์ที่ขยายฐานการผลิตในไทยเพิ่มเติม และเตรียมผลิตรถยนต์อีโคคาร์เพิ่มอีก 2 ราย คือ มิตซูบิชิและซูซูกิ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามและมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ คือ ราคาพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ทางการเมือง และแผนป้องกันน้ำท่วมที่เป็นรูปธรรม