ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์รับข่าว IMF เพิ่มทุนทรัพย์

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 19, 2012 07:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยยูโรแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาช้อนซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร หลังจากฟิทช์ เรทติงส์ คาดการณ์ว่าอิตาลีจะไม่เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมเพิ่มทุนทรัพย์เพื่อหนุนเศรษฐกิจโลกให้ปลอดภัยจากวิกฤตหนี้ยุโรป

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.93% แตะที่ 1.2855 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2737 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.66% แตะที่ 1.5437 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5336 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.790 เยน จากระดับ 76.820 เยน และดิ่งลง 1.05% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9394 ฟรังค์ จากระดับ 0.9494 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.47% แตะที่ 1.0429 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0380 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.95% แตะที่ 0.8072 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7996 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า อิตาลีจะไม่เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากข่าวการเพิ่มทุนทรัพย์ของไอเอ็มเอฟ

โฆษกของไอเอ็มเอฟได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่คณะทำงานของไอเอ็มเอฟประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศทั่วโลกต้องการเงินทุนราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนมากขึ้นจากรายงานที่ว่า รัฐบาลกรีซเริ่มเจรจากับกลุ่มผู้ถือพันธบัตรในเรื่องการปรับลดมูลค่าพันธบัตรด้วยความสมัครใจ หลังจากที่การเจรจาดังกล่าวต้องหยุดชงักลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความขัดแย้งในเรื่องอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไป เดือนธ.ค. ปรับตัวลดลงลดลง 0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งการปรับตัวลงของดัชนี PPI ทั่วไปอาจจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

นักลงทุนจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป จะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. และดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ