น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)เปิดเผยว่า ในปี 55 ถือเป็นปีที่ท้าทายของ กบข. เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจ การลงทุน ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก โดยเฉพาะวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป และการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่รวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากสินทรัพย์ทั่วไป เช่น หุ้น, พันธบัตรเริ่มจำกัดและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง
ดังนั้น ในปีนี้ กบข.จึงมีแผนจะพัฒนาวิธีจัดพอร์ตการลงทุนให้มีความคล่องตัวมากขึ้นกว่าในอดีต และเริ่มขยายการลงทุนไปในสินทรัพย์การลงทุนทางเลือกกลุ่มใหม่ เช่น อสังหาริมทรัพย์โลก และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งศึกษาหลักเกณฑ์การลงทุนในนิติบุคคลเอกชนโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว
รวมทั้ง ขยายการลงทุนไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มจะเติบโตดีกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว โดย กบข.มีแผนจะขยายการลงทุนในพันธบัตรประเทศแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้, มาเลเซีย และออสเตรเลีย เป็นต้น
"มีปีเรามียุทธศาตร์ 4 ด้าน เพื่อรับมือกับความผันผวนและสร้างความพึงพอใจให้แก่สมาชิก โดยด้านการลงทุนในปีนี้จะมีการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศมากขึ้น และอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะขยายเพดานที่ 25% ได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างเช่น เอเชีย และประเทศเกิดใหม่ต่างๆ รวมทั้งการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน"น.ส.โสภาวดี กล่าว
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกบข.ในปี 55 แบ่งเป็น ตราสารทุนไทย 8%, ตราสารทุนโลก 9%, ตราสารหนี้ไทย 65%, ตราสารหนี้โลก 10%, สินค้าโภคภัณฑ์ 1%, อสังหาริมทรัพย์ไทย 4.5%, อสังหาริมทรัพย์โลก 0.7%, โครงสร้างพื้นฐาน 0.3% และนิติบุคคลเอกชนไทย 1.5%
ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในปีนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆทั้งในและต่างประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะความคืบหน้าเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าผลตอบแทนฯ น่าจะใกล้เคียงกับปี 54 ที่ยังเป็นบวก และในกรณีดีที่สุดผลตอบแทนอาจสูงที่ระดับ 8-9% แต่หากวิกฤตในยุโรปรุนแรงขึ้น เช่น ยูโรโซนเกิดการแตกสลาย ผลตอบแทนก็คงจะติดลบ
อนึ่ง ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี และ 5 ปีที่ผ่านมาของ กบข.เฉลี่ยอยู่ที่ 6.83% และ 4.85% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ที่ระดับ 3.74% และ 2.75% ตามลำดับ
น.ส.โสภาวดี กล่าวถึง ยุทธ์ศาสตร์อีก 3 ด้าน เพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนของตลาดโลกและสร้างความผูกพัน ความพึงพอใจให้แก่สมาชิก กบข.ดังนี้ ด้านสมาชิก กบข.กำหนดให้ปี 55 เป็นปีแห่งการสร้างความผูกพันเพื่อเป็นคู่คิดตลอดชีวิตของสมาชิก (Lifetime Partner)เนื่องจากสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของ กบข. นอกจากการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวแล้วการตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่สมาชิกเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ
ในปีนี้ กบข.เตรียมจัดสวัสดิการและแคมเปญต่างๆเพื่อตอบโจทย์สมาชิกแต่ละช่วงชีวิต เช่น สวัสดิการเพิ่มรายได้สำหรับสมาชิกช่วงวัยเริ่มทำงานต้องการสร้างฐานะ จัดแคมเปญกระตุ้นการออมเพิ่ม ออมต่อ รวมทั้งพัฒนาหลักสูตรวางแผนการเงินสำหรับข้าราชการครูสมาชิก กบข. เพื่อปลูกฝังการออมและสร้างความเพียงพอของเงินออมหลังเกษียณ นอกจากนี้ กบข. ยังมีแผนสร้างเครือข่ายพันธมิตรในหน่วยงานราชการทั่วประเทศให้เสมือนสำนักงานย่อยของ กบข. เพื่อเข้าถึงสมาชิกได้รวดเร็วและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ด้านองค์กร กบข. ได้เตรียมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการลงทุนและด้านสมาชิก โดยเตรียมพัฒนาระบบ E-Claim เพื่อให้บริการสมาชิกที่เกษียณอายุพร้อมปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีให้เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งร่วมมือกับนักลงทุนสถาบันผลักดันแนวทางการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment) ตามหลักการ ESG
และด้านบุคลากรที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมกำหนดแผนแม่บทในการพัฒนาบุคลากร เริ่มตั้งแต่การสรรหาบุคลากร พัฒนาพนักงานให้มีศักยภาพสูงและความก้าวหน้าในอาชีพ ผ่านแผนงานพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (Individual Development Program : IDP) รวมทั้งจัดทำตัวชี้วัด (KPI) ให้เชื่อมโยงกับการประเมินผลปฎิบัติงานมากยิ่งขึ้น
นายแมน ชุติชูเดช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน กบข.กล่าวว่า ปีนี้ กบข.จะเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเพิ่มขึ้น และลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วไปอย่างหุ้นและตราสารหนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง ขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 8% จากปีก่อนที่ 7.9% ซึ่งเท่ากับแผนการจัดสรรการลงทุนระยะยาว 3 ปี (54-56)
แต่ทั้งนี้ถ้าสถานการณ์ต่างๆในต่างประเทศโดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องวิกฤตหนี้ในยุโรปมีความคืนหน้ามากขึ้น กบข.ก็พร้อมที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะเพิ่มเป็น 10% และตลาดหุ้นต่างประเทศที่ 11%
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 55 ประเมินว่ากรอบการปรับตัวขึ้นของดัชนี SET คงมีไม่มากนัก เนื่องจากในปี 54 ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นมากค่อนข้างมากแล้ว โดยเป้าหมายดัชนี SET ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,100 จุด ทั้งนี้ประเมินว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 12%
นายธีรพงษ์ นิลวรสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายลงทุนทางเลือก กบข.กล่าวว่า กบข.ตั้งเป้าภายในปี 56 สัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกในต่างประเทศทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์, โครงสร้างพื้นฐาน, สินค้าโภคภัณฑ์ และ นิติบุคคลเอกชน เพิ่มขึ้นเป็น 12% หรือมีมูลค่ารวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท