นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า มีความเป็นไปได้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำเป็นต้องยืดอายุออกไปจากเดิมที่จะต้องปิดองค์กรภายในปี 56 หลังได้มีการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากแล้ว โดยมองว่าหลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะให้กองทุนฟื้นฟูฯรับภาระชำระคืนหนี้เงินต้น 1.14 ล้านล้านบาทและดอกเบี้ย โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ช่วยดำเนินการ ทำให้ภาระหน้าที่ของกองทุนฟื้นฟูฯ ยังมีอยุ่
"มีความเป็นไปได้ที่อาจต้องยืดอายุกองทุนฟื้นฟูฯ ออกไปเป็น 25 ปี ตามภาระการชำระหนี้"นายอารีพงศ์ กล่าว
ปัจจุบัน กองทุนฟื้นฟูฯ มีทรัพย์สินประมาณ 2-3 แสนล้านบาท สามารถบริหารจัดการให้มีผลกำไรได้ ขณะที่หุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯถือหุ้น เช่น ธนาคารกรุงไทย คงจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ในขณะนี้
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สศค.ได้เสนอให้รมว.คลังสมัยของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่จะไม่มีการยุบเลิกกองทุนฟื้นฟูฯแล้ว เนื่องจากมองว่าควรจะมีหน่วยงานในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน แม้จะมีการตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แต่ทำหน้าที่เฉพาะเท่านั้น และเรื่องดังกล่าวได้มีการหารือกับ ธปท.และเห็นชอบร่วมกันแล้ว ซึ่งจะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.ธปท.เพื่อดำเนินการดังกล่าว
"เป็นเรื่องที่เคยเสนอก่อนที่จะมี พ.ร.ก.โอนหนี้ให้กองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งทาง คุณธีระชัยก็เห็นด้วยไม่มีปัญหา เพราะมองว่าควรจะมีหน่วยงานมาดูแลสถาบันการเงินเวลามีปัญหาเกิดขึ้นและทางแบงก์ชาติก็เห็นด้วย... หลังเปลี่ยนรมว.คลังคงต้องมีการเสนอเรื่องใหม่"นายสมชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"