(เพิ่มเติม) ครม.เห็นชอบจัดงบ 1.5 หมื่นลบ.รับซื้อยางเข้าสต็อกแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 24, 2012 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับใช้ดำเนินการรับซื้อยางพาราเก็บเข้าสต๊อกของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา โดยหวังให้ราคายางพาราปรับขึ้นไปอยู่เหนือระดับราคากิโลกรัมละ 120 บาท

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.) ได้อนุมัติวงเงินเร่งด่วนจำนวน 2 พันล้านบาทสนับสนุนสหกรณ์ยางพาราผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) โดยใช้ยางพาราที่อยู่ในสต็อกเป็นหลักประกัน เพื่อแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

โดยงบประมาณที่ ครม.อนุมัติในวันนี้เพื่อให้ ธ.ก.ส.นำไปสนับสนุนให้กับสถาบันเกษตรกรที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดซื้อยางวงเงิน 5 พันล้านบาท และอีก 1 หมื่นล้านบาทให้กับองค์การสวนยาง(อสย.) เพื่อรับซื้อยางจากเกษตรมาไว้ในสต็อกในราคาชี้นำตลาด

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ 17 ม.ค.55 ได้พิจารณาเรื่องการรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอุปทานยาง เพื่อให้มีราคารับซื้อที่เหมาะสมและยั่งยืนอยู่ที่ระดับ 120 บาท/กก. ระยะเวลาโครงการ 1 ปี 3 เดือน(ม.ค.55-มี.ค.56) ประกอบด้วย 2 แนวทาง

1. แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะสั้นสำหรับยางแผ่นรมควันที่สถาบันเกษตรกรยังไม่สามารถขายได้ ได้มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยใช้ผลผลิตยางพาราจำนำเป็นประกัน ทั้งนี้ให้สถาบันเกษตรกรเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย โดยรัฐจะรับภาระดำเนินการเรื่องประกันวินาศภัย โดยจะขอรับการสนับสนุนงบกลางประจำปีงบประมาณ 55 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 13.333 ล้านบาท

2. แนวทางการช่วยเหลือเงินทุนหมุนเวียนผู้ประกอบการยางพาราและกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานเพิ่มเติม ด้วยการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงินดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ส่วน 1.เงินที่ ธกส.จะให้กู้เป็นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อให้สถาบันเกษตรกรและองค์การสวนยางใช้ในการรับซื้อยางนำไปแปรรูปและรอขายในราคาที่เหมาะสม วงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท โดยจะใช้เงินจากงบช่วยเหลือโครงการรับจำนำข้าวจัดสรรให้สถาบันเกษตรกร 5,000 ล้านบาท และองค์การสวนยาง 10,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ