ดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากที่การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซไม่มีความคืบหน้า ทำให้มีความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 08.39 น. (ตามเวลานิวยอร์ก) ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ 77.66 เยน หลังจากที่ได้ทะยานแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.เป็นต้นมาที่ 77.69 เยน
เมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 1.2971 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น โดยปรับตัวขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ 100.75 เยน หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิกส์เปิดเผยผลสำรวจผู้จัดการฝ่ายซื้อทั้งในอุตสาหกรรมบริการและการผลิตของประเทศในกลุ่มยูโรโซนพบว่า ดัชนีประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 48.3 ในเดือนธ.ค.มาอยู่ที่ 50.4 สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 48.5 รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ขณะที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเอกชน เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนที่ 4.0% ถือเป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าหากจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ป และนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กกล่าวว่า "รัฐมนตรีกลุ่มยูโรโซนได้ขอให้กลุ่มเจ้าหนี้และรัฐบาลกรีซดำเนินการเจรจาต่อไป เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงมาอยู่ต่ำกว่า 4% สำหรับช่วงอายุทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าอัตราผลตอบแทนจะลดลงต่ำกว่า 3.5% ก่อนสิ้นปี 2563"