ตัวแทนเอกชนที่ถือครองพันธบัตรของรัฐบาลกรีซเตือนว่า เสถียรภาพการเงินของยุโรปจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว
นายชาร์ลส์ ดัลลารา กรรมการสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเอกชนกล่าวว่า หากข้อตกลงการปรับโครงสร้างหนี้กรีซล้มเหลว จะส่งผลให้เสถียรภาพการเงินของยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงทันที และเขามั่นใจว่าภาคเอกชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแบกรับภาระหนี้สินของกรีซมากขึ้น หากกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนสามารถทำข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ได้
การแสดงความคิดเห็นของนายดัลลารามีขึ้นไม่นานหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ภาคเอกชน ที่ต้องการอัตราผลตอบแทน 4% สำหรับพันธบัตรระยะยาวที่มีการออกใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพันธบัตรชุดปัจจุบันของกรีซ ในขณะที่ IIF ระบุว่า อัตราผลตอบแทนที่ 4.0% ถือเป็นระดับต่ำสุดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้ ถ้าหากจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของพันธบัตรที่พวกเขาถือครองอยู่ลง 50%
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้ตัวเลขหนี้สินของกรีซลดลงราว 1.00 แสนล้านยูโร ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและไอเอ็มเอฟมองว่าจะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น